เราลงทุนกับครีม เซรั่ม และขั้นตอนการดูแลผิวที่ซับซ้อน แต่ถึงกระนั้น ผิวของเราก็ยังรู้สึกตึง หมองคล้ำ หรือมีสัญญาณของริ้วรอยเร็วกว่าที่คาดไว้ สาเหตุไม่ได้อยู่ที่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้เสมอไป แต่เป็นกับดักในชีวิตประจำวัน ซึ่งมักมองไม่เห็น และทำให้ผิวอ่อนแอลงโดยที่เราไม่รู้ตัว นี่คือข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อรักษาสุขภาพผิวให้เปล่งปลั่ง
การทำความสะอาดผิวมากเกินไป
สุขอนามัยเป็นสิ่งสำคัญ แต่การทำความสะอาดมากเกินไปอาจก่อให้เกิดโทษมากกว่าผลดี การล้างผิวบ่อยเกินไปหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงจะทำลายฟิล์มไฮโดรลิปิดิกที่ปกป้องผิวตามธรรมชาติ ส่งผลให้ผิวแห้งกร้าน ไวต่อสิ่งต่างๆ มากขึ้น และอาจผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นเพื่อปกป้องตัวเอง ความรู้สึกตึงผิวหรือสิวขึ้นซ้ำๆ มักเป็นสัญญาณเตือนแรกๆ
การใช้น้ำที่ร้อนเกินไป
น้ำร้อนจัดให้ความรู้สึกสบาย โดยเฉพาะในขณะอาบน้ำ แต่จะทำลายเกราะป้องกันผิว มันจะละลายไขมันตามธรรมชาติของผิว ทำให้ผิวแห้งและระคายเคือง สำหรับทั้งใบหน้าและลำตัว น้ำอุ่นก็เพียงพอแล้วสำหรับการทำความสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำให้ผิวระคายเคือง
การละเลยการปกป้องผิวจากแสงแดดในชีวิตประจำวัน
หลายคนคิดว่าครีมกันแดดจำเป็นเฉพาะในฤดูร้อนหรือที่ชายหาดเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว รังสียูวีมีอยู่ตลอดทั้งปี แม้ในวันที่ฟ้าครึ้ม การได้รับรังสียูวีซ้ำๆ แม้ในระดับปานกลาง ก็เร่งให้ผิวแก่ก่อนวัย ทำให้เกิดจุดด่างดำ และเปลี่ยนแปลงสภาพผิว การขาดการปกป้องจากแสงแดดเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ถูกมองข้ามมากที่สุดในการเสื่อมสภาพของผิว
เพิ่มจำนวนผลิตภัณฑ์และสินทรัพย์
การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลายชนิดซ้อนกัน หรือการผสมส่วนผสมที่ไม่เข้ากัน อาจทำลายสมดุลของผิวได้ กรดผลัดเซลล์ผิว เรตินอยด์ วิตามินซี หรือน้ำมันหอมระเหย หากใช้ในปริมาณหรือการผสมที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดรอยแดง การอักเสบ และความไวต่อสิ่งต่างๆ เพิ่มขึ้นได้ ขั้นตอนการดูแลผิวที่มีประสิทธิภาพไม่จำเป็นต้องซับซ้อน เพียงแค่เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมไม่กี่อย่างก็มักจะเพียงพอที่จะรักษาสมดุลของผิวได้แล้ว
การสัมผัสใบหน้าบ่อยเกินไป
การถูหน้า การสัมผัสผิว หรือการแกะสิว อาจดูเหมือนไม่เป็นอันตราย แต่จริงๆ แล้วอาจส่งผลร้ายแรงได้ มือมีแบคทีเรียและก่อให้เกิดการระคายเคืองเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งส่งเสริมให้เกิดสิวและการอักเสบ ในระยะยาว การกระทำซ้ำๆ เหล่านี้อาจทิ้งรอยแผลเป็นบนผิวหนังได้
การละเลยผลกระทบของอาหารและความเครียด
ผิวหนังสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย การรับประทานอาหารที่ไม่สมดุล ขาดสารอาหารที่จำเป็น หรือความเครียดเรื้อรัง สามารถรบกวนการทำงานของผิวหนังได้ การอักเสบ ผิวหมองคล้ำ สิว หรือความไวต่อสิ่งกระตุ้นเพิ่มขึ้น มักเกี่ยวข้องกับปัจจัยที่มองไม่เห็นแต่สำคัญเหล่านี้
การล้างเครื่องสำอางไม่ถูกวิธี หรือการข้ามขั้นตอนนี้
การล้างเครื่องสำอางไม่สะอาดเพียงพอจะทำให้มีคราบเครื่องสำอาง มลภาวะ และความมันตกค้างอยู่บนผิว สิ่งสกปรกเหล่านี้จะอุดตันรูขุมขนและขัดขวางการฟื้นฟูผิวอย่างเหมาะสมในเวลากลางคืน แม้ว่าจะไม่ได้แต่งหน้า การทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยนในตอนท้ายของวันก็ยังคงมีความสำคัญอยู่ดี
การนอนบนสิ่งทอที่ไม่เหมาะสม
ปลอกหมอนและผ้าเช็ดตัวที่ทำจากผ้าหยาบหรือดูแลรักษาไม่ดีอาจทำให้ผิวระคายเคืองและสะสมแบคทีเรียและสิ่งสกปรก ซึ่งในระยะยาวอาจก่อให้เกิดสิวและอาการแพ้ได้ การเลือกใช้ผ้าที่สะอาดและนุ่ม และเปลี่ยนเป็นประจำจึงเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่สร้างความแตกต่างอย่างมาก
กล่าวโดยสรุป สุขภาพผิวไม่ได้ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ที่เราใช้เท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับนิสัยประจำวันที่เรามักมองข้ามไป การหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ จะช่วยให้ผิวคงสมดุล ชะลอริ้วรอยก่อนวัย และทำให้ผิวดูแข็งแรงและเปล่งปลั่งยิ่งขึ้น บางครั้ง การปรับปรุงสภาพผิวก็เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการทำน้อยลง แต่ทำอย่างมีคุณภาพมากขึ้น
