ใครบ้างที่ไม่รู้สึกดีขึ้นในช่วงสองสามวันแรกหลังจากหยุดงาน? วิทยาศาสตร์ยืนยันว่าความรู้สึกนี้ไม่ใช่แค่ภาพลวงตา การพักผ่อนบ่อยขึ้นตลอดทั้งปีช่วยป้องกันความเครียดและภาวะซึมเศร้าได้จริง
วงเล็บเจ็ดอันเพื่อรักษาสมดุลทางจิตใจ
จาก ผลการศึกษาหลายชิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาจากมหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์ก พบว่าจำนวนวันหยุดพักผ่อนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสุขภาพจิตที่ดีที่สุดคือ...เจ็ดครั้งต่อปี นักวิจัยชาวอเมริกัน ได้ติดตามผู้เข้าร่วมหลายพันคนเป็นเวลาหลายปี และพบความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างความถี่ในการเดินทางและสุขภาพจิต ผู้ที่ใช้เวลาพักผ่อนอย่างน้อยเจ็ดครั้ง ไม่ว่าจะเป็นช่วงสุดสัปดาห์ยาวๆ หรือการเดินทางที่นานกว่านั้น มีความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าลดลง 30%
ระดับคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดของพวกเขาก็ลดลง และอารมณ์ก็คงที่มากขึ้น การหยุดพักเป็นระยะๆ เหล่านี้ทำหน้าที่เหมือน "การรีเซ็ตทางอารมณ์" ช่วยให้หลุดพ้นจากวงจรความเหนื่อยล้าเรื้อรังได้
ประโยชน์ทางด้านร่างกายและอารมณ์ของการหยุดพักเป็นประจำ
แม้แต่การพักผ่อนช่วงสั้นๆ ก็ส่งผลดีต่อร่างกายอย่างเห็นได้ชัด เช่น ช่วยลดความดันโลหิต ปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ และเสริมสร้างการควบคุมอารมณ์ นักวิจัยอธิบายว่า การเปลี่ยนบรรยากาศเพียงอย่างเดียวก็กระตุ้นวงจรการให้รางวัลในสมอง เพิ่มระดับโดปามีนและเซโรโทนิน ซึ่งจำเป็นต่ออารมณ์ที่ดี เพียงแค่คิดถึงการไปเที่ยวพักผ่อน ไม่ว่าจะเป็นทริปที่กำลังจะมาถึง ก็อาจช่วยบรรเทาความเครียดจากการทำงานได้แล้ว
เหตุใดการพักผ่อนระยะสั้นหลายครั้งจึงดีกว่าการเดินทางระยะยาวครั้งเดียว
ตรงกันข้ามกับความเชื่อทั่วไปที่ว่าการเดินทางไกลครั้งเดียวต่อปีก็เพียงพอที่จะชาร์จพลังได้แล้ว งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการกระจายการเดินทางสั้นๆ หลายครั้งตลอดทั้งปีนั้นมีประโยชน์มากกว่า การพักผ่อนเหล่านี้จะช่วยขัดจังหวะกิจวัตรประจำวันและช่วยให้ระบบชีวภาพในร่างกายปรับสมดุลได้บ่อยขึ้น ซึ่งมักถูกรบกวนจากการทำงานหนักเกินไป ดังนั้น การพักผ่อนสั้นๆ จึงดีกว่าการอดนอนเป็นเวลานานหลายเดือน เพราะช่วยรักษาสภาพจิตใจให้แข็งแรงและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในระยะยาว
เติมพลังให้ตัวเองได้โดยไม่ต้องเดินทางไกล
การเดินทางไปอยู่อีกซีกโลกหนึ่งไม่ใช่เรื่องจำเป็น: เพียงแค่การงดใช้อุปกรณ์ดิจิทัล การไปพักผ่อนในธรรมชาติช่วงสุดสัปดาห์ หรือการพักผ่อนในเมืองใกล้เคียงสักสองสามวัน ก็ให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดแล้ว นักวิจัยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพักผ่อนทางจิตใจมากกว่าการพักผ่อนทางกายภาพ: การผ่อนคลาย การเดิน การหัวเราะ การรับแสงธรรมชาติ การกระทำง่ายๆ เหล่านี้ล้วนช่วยป้องกันภาวะหมดไฟได้
การศึกษาเหล่านี้จึงตอกย้ำประเด็นสำคัญประการหนึ่ง นั่นคือ สุขภาพจิตไม่ได้ขึ้นอยู่กับการแสดงผลงานหรือกีฬาเพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับการพักผ่อนและการผ่อนคลายด้วย การท่องเที่ยวไม่ใช่สิ่งฟุ่มเฟือย แต่เป็นกลไกพื้นฐานทางจิตวิทยาและชีววิทยา แม้ว่าการเดินทางเจ็ดครั้งต่อปีอาจเป็นไปไม่ได้ แต่การสร้างช่วงเวลาพักผ่อนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นการหยุดพักอย่างแท้จริงจากการทำงานประจำวัน ก็เป็นประโยชน์อย่างยิ่งแล้ว
